นายกฯ เตรียมนั่งหัวโต๊ะ ศบศ.พิจารณาเปิดรับนักท่องเที่ยว “พิพัฒน์” ชงข้อเสนอ 8 สมาคมเอกชน กระทุ้งรัฐเร่งเปิดประเทศนำร่องแซนด์บ็อกซ์ภูเก็ต-สมุย” เริ่ม 1 ก.ค.นี้ ไม่ต้องกักตัวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดสแล้ว และเมื่อครบ 7 วันไม่ติดเชื้อเที่ยวทั่วประเทศได้ หวังดันนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ได้ 6.5 ล้านคน


นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 26 มี.ค. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม จะเป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบศ.) ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจล่าสุด และกำหนดแนวทางความเป็นไปได้ในการเตรียมความพร้อมนำร่องจังหวัดภูเก็ตเพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ

อ้างอิงเนื้อหา และรูปภาพจาก
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/2057687

นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ด้วยจุดแข็งของเซ็นทรัลพัฒนาที่มีศูนย์การค้าทั่วประเทศ และเป็นผู้นำในธุรกิจศูนย์การค้า เราเชื่อมั่นว่าเราเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อน Tourism Ecosystem ที่สำคัญของประเทศ และสอดรับกับมาตรการฟื้นฟูกิจกรรมทางเศรษฐกิจของภาครัฐ

จึงได้ใช้งบ 180 ล้านบาท เปิดแคมเปญ “Central Summer Plays เพลย์ชีวิตให้สุด ช้อปไม่หยุดรับซัมเมอร์” เป็นหัวหอกในการสร้างความคึกคักให้ภาคการท่องเที่ยวและบริการของประเทศ ทั้งโรงแรม ร้านอาหาร สปา ทรานส์ปอร์ต สายการบิน เรือหรู รถเช่า และธุรกิจบริการอื่นๆ อยู่ในห่วงโซ่ที่เกื้อหนุนกัน ส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบข้ามภูมิภาค เพื่อกระจายรายได้สู่ทุกภาคธุรกิจทั่วประเทศ กระตุ้นภาคธุรกิจท่องเที่ยวและบริการทั้งระบบ”

อ้างอิงเนื้อหาจาก
https://www.thairath.co.th/news/business/market-business/2054755

หลังจากที่วัคซีนต้านโควิด-19 โดสแรกมาถึงประเทศไทยในวันที่ 24 ก.พ.ที่ผ่านมา ถือเป็นความหวังในการยุติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการกลับมาเปิดประเทศอีกครั้ง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะภาคท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งเคยเป็นรายได้หลักของเศรษฐกิจไทย


ทั้งนี้ ตามไทม์ไลน์ของรัฐบาล ในช่วงเดือน มี.ค.และ เม.ย.ประเทศไทยจะได้รับวัคซีน 2 ล้านโดส สำหรับคนไทย 1 ล้านคน และตั้งแต่เดือน พ.ค.เป็นต้นไปเราจะมีวัคซีนเพิ่มขึ้นอีก 26 ล้านโดส สำหรับคนไทย 13 ล้านคน และในระหว่างนี้จะจัดหาวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อให้ครบเป้าหมายแรกคือ 50% ของประชาชนไทย หรือประมาณ 33 ล้านคน และจัดหาให้ครบ 67 ล้านคน ในระยะต่อไป โดยทุกโดสประชาชนคนไทยจะได้รับการฉีดฟรี

อ้างอิงเนื้อหาจาก
https://www.thairath.co.th/news/business/2054317